วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2567

[Bibli] "หนังสือใหม่" ใน งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 29 @ E31 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

พบกันในมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 29 Biblio บูธ E31
วันที่ 10-20 ตุลาคม 2567 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์



=======================================================

1. คาโมงาวะ นักสืบอาหารรสชาติความทรงจำ (Kamogawa Shokudo 鴨川食堂 | คาโมงาวะ นักสืบอาหาร เล่ม 1)

ผู้เขียน Hisashi Kashiwai
ผู้แปล พรพิทักษ์ นิ่มอนงค์
ภาพปก Jelda Land
ออกแบบปก Por Thunwarath
จำนวน 272 หน้า
ราคา 289 บาท

นิยายอบอุ่นสำหรับคนที่จริงจังกับรสชาติที่ยังคิดถึง
เมื่อการกินอาหารอาจไม่ใช่แค่เพื่อความอร่อยและอิ่มท้อง
เพราะสิ่งที่ซ่อนอยู่ในแต่ละจานมีความหมายกับใครบางคนมากกว่านั้น

ณ ร้านอาหารคาโมงาวะ ที่ตั้งอยู่ในเกียวโต มีเจ้าของร้านคือคาโมงาวะ นางาเระ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กับคาโมงาวะ โคอิชิ ผู้เป็นลูกสาว และเจ้าแมวฮิรุเนะที่มักทำหน้าที่คอยคลอเคลียส่งลูกค้าอยู่นอกร้าน

ทว่า บางคนไม่ได้แวะมาเพื่อกินอาหารเป็นจุดประสงค์หลัก เพราะร้านอาหารแห่งนี้ยังเปิด
เป็นสำนักงานนักสืบคาโมงาวะ รับสืบหารสชาติอาหารในความทรงจำ เพื่อทำเมนูนั้นให้ลูกค้า
ได้ลิ้มรสอีกครั้งภายในเวลาสองสัปดาห์หลังจากได้รับมอบหมาย ตัวอย่างเมนูที่พวกเขาต้องสืบหาได้แก่

อูด้งหม้อไฟแห่งความหลัง
ซูชิซาบะที่ทำให้นึกถึงความสุขวัยเด็ก
สตูว์เนื้อตอนถูกขอแต่งงานครั้งแรก
และเนื้อวัวตัมมันฝรั่งรสมือแม่

หลายครั้ง ลูกค้ามีเบาะแสเพียงน้อยนิด แถมสิ่งที่จำได้ก็เลือนรางเสียเหลือเกิน
แต่สองพ่อลูกคาโมงาวะก็จะพยายามสืบหาเมนูที่ว่าให้เจอ เพราะในจานอาหารเหล่านั้นมีความทรงจำล้ำค่าซ่อนอยู่

‘คาโมงาวะ นักสืบอาหารรสชาติความทรงจำ’ นิยาย Cozy Mystery ที่สร้างเป็นซีรีส์ทางช่อง NHK
คุณจะอิ่มเอมใจไปกับรสของความทรงจำอันล้ำค่า เพลิดเพลินกับฉากหลังอันสวยงามในเมืองเกียวโต
และประทับใจในรายละเอียดชีวิตที่ผู้เขียนบรรจงร้อยเรียงออกมา



2. คู่มือคดีฆาตกรรมฉบับเด็กดี A Good Girl’s Guide to Murder

ผู้เขียน Holly Jackson
ผู้แปล สลินี
ภาพปก nogoodwithcat
ออกแบบปก Por Thunwarath
จำนวน 472 หน้า
ราคา 469 บาท

พิปปา ได้ชื่อว่าเป็นเด็กดี เธอเป็นเด็กเรียนที่ชอบทำการบ้าน เธอเชื่อฟังพ่อแม่
และครั้งนี้เธอขอเดินหน้ารื้อปมคดีฆาตกรรมในอดีตขึ้นมาใหม่อีกครั้งเพื่อค้นหาความจริง

ใครๆ ในเมืองลิตเติลคิลตันต่างก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อห้าปีก่อน พวกเขารู้ว่าแอนดี เบลล์
เด็กสาวมัธยมปลายแสนสวย ถูกแฟนหนุ่มอย่างสัล สิงห์ ฆ่าและกำจัดศพอย่างหมดจด
เสียจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครหาพบ แม้คนทั้งเมืองจะพร้อมใจกันเชื่อตามที่ตำรวจสรุปคดี
แต่เด็กดีอย่างพิปปา ฟิตซ์-อาโมบี กลับไม่เชื่อว่า สัลจะลงมือทำเรื่องโหดร้ายอย่างนั้นได้

พิปตัดสินใจทำโครงการจบการศึกษาเกี่ยวกับคดีดังกล่าว
ในตอนแรกเธอแค่อยากหาข้อมูลมาสะกิดให้ตำรวจและ
ชาวเมืองกลับมาตั้งคำถามต่อคดีที่ถูกปิดไปอย่างง่ายดาย
แต่แล้วการสืบสวนก็ทำให้พบเงื่อนงำหลายอย่างที่ถูกมองข้ามไป
น่าสงสัยว่าแท้จริงแล้วสัลเป็นผู้บริสุทธิ์มาโดยตลอดหรือไม่

แต่มีใครบางคนไม่พอใจที่พิปเที่ยวขุดคุ้ยความลับ และส่งคำขู่ให้เห็นว่า
เขาพร้อมลงมือทำทุกวิถีทางเพื่อกลบฝังความจริงเอาไว้ อันตรายเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้
ผู้ต้องสงสัยเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีใครรู้ว่าพิปจะได้จบการศึกษาหรือว่าจบชีวิตก่อนกัน

คู่มือคดีฆาตกรรมฉบับเด็กดี นิยายสืบสวนสอบสวนวัยรุ่นอันดับ 1 New York Times Bestseller
ผลงานเปิดตัวของฮอลลี แจ็กสัน ที่โด่งดังไปทั่วโลก นิยายเรื่องนี้ได้รับรางวัลนิยายสำหรับเยาวชนยอดเยี่ยมแห่งปี
จาก The British Book Awards และยังดัดแปลงเป็นซีรีส์ยอดนิยมใน Netflix นำแสดงโดย Emma Myers



3. อีกไม่นาน เราจะเป็นมนุษย์รุ่นเดียวกัน: คลื่นแห่งความเปลี่ยนแปลงจะสร้างโลกใหม่ที่วัยไร้เส้นแบ่ง
The Perennials: The Megatrends Creating a Postgenerational Society


ผู้เขียน เมาโร เอฟ. กิลเยน (Mauro F. Guillén)
ผู้แปล ไอริสา ชั้นศิริ
ออกแบบปก Tawan Ithijarukul
จำนวน 376 หน้า
ราคา 479 บาท

ผลงานใหม่จาก เมาโร เอฟ. กิลเยน ผู้เขียน “2030 อนาคตอันใกล้ไม่มีอะไรเหมือนเดิม”
นักเขียนที่เก่งกาจในด้านการพยากรณ์วิถีทางของโลกในวันหน้า
และตอนนี้เขากลับมาอีกครั้งกับเรื่องราวการวิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงทางเจเนอเรชั่น
ที่น่าจะเขย่าวงการธุรกิจโลกและทำให้นักการตลาดอาจต้องรีบถอดบทเรียนจากหนังสือเล่มนี้

เวลาชีวิตของพวกเราถูกแบ่งออกเป็นลำดับขั้น เริ่มจากวัยทารกแห่งการเติบโต
จากนั้นก็เข้าโรงเรียน เรียนต่อมหาวิทยาลัย ตามมาด้วยการทำงาน ไม่ทันรู้ตัวเราก็เข้าสู่วัยเกษียณ
และคาดหวังแรงกล้าว่าลูกหลานของเราจะมีขั้นตอนชีวิตแบบเดียวกัน

ตลอดระยะเวลาประมาณ 150 ปีที่ผ่านมา คนทุกรุ่นได้รับการบอกกล่าวให้ทำตามกฎเกณฑ์แบบเดียวกันนี้เหมือนกันทั้งโลก
ตั้งแต่ญี่ปุ่นไปจนถึงสหรัฐอเมริกา จากประเทศบนคาบสมุทรสแกนดิเนเวียไปจนถึงสุดปลายแหลมของทวีปแอฟริกา

แต่โมเดลนี้กำลังจะล้าสมัยแล้วเพราะนิยามของคำว่า ‘แก่’ และ ‘หนุ่มสาว’ เปลี่ยนแปลงไป
อายุขัยของเราและอายุขัยสุขภาพของเรายาวนานขึ้น พร้อม ๆ กับที่โซเชียลมีเดียกำลังทลายกรอบของเจเนอเรชัน

จะเป็นอย่างไร หากคนสามารถปลดแอกตัวเองจากวิถีชีวิต ‘ตามวัย’ และกลายเป็นกลุ่มคน ‘เพอเรนเนียล’ ได้ ?

โลกของคนเพอเรนเนียล คือ โลกที่เราสามารถทำกิจกรรมของคนหลากรุ่น
ได้พบเจอกับโอกาสมากกว่าอคติเรื่องเด็กหรือแก่
และได้ปฏิสัมพันธ์กับคนต่างรุ่นในสังคมที่ไม่ถูกจำกัดโดยอายุอีกต่อไป

ในเล่มนี้ เราจะได้เดินทางรอบโลกไปทั่วทุกภูมิภาค ผ่านประวัติศาสตร์การเมือง
การศึกษา นวนิยาย ภาพยนตร์ ละครทีวี และสามัญชนคนทั่วไป เพื่ออธิบายให้เห็นภาพว่า
โมเดลชีวิตแบบลำดับขั้นแพร่อยู่ในวัฒนธรรมและสังคมของเรามากแค่ไหน มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

และเพื่อทำความเข้าใจว่า ทัศนคติแบบเพอเรนเนียล คือ วิธีการใช้ชีวิตแบบใหม่แห่งศตวรรษที่ 21
ชีวิตที่เราจะได้ปลดปล่อยศักยภาพที่มีอยู่ในตัวแต่ละคนออกมาอย่างเต็มที่
โดยไร้กรอบเกณฑ์เรื่องช่วงวัย ไม่มีใครถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลังอีกต่อไป

และหากสังเกตดี ๆ คุณจะพบว่าโลกของเราในเวลานี้ได้มี ‘การปฏิวัติไร้รุ่น’ เกิดขึ้นแล้ว



4. ราชันกวาง (Shika no Ou 鹿の王) เล่ม 1

ผู้เขียน Nahoko Uehashi
ผู้แปล เมธี ธรรมพิภพ
ภาพปก JUNG
ออกแบบปก Por Thunwarath
จำนวน 320 หน้า
ราคา 349 บาท

ปฐมบทแห่งมหากาพย์นิยายแฟนตาซีตะวันออก
การผจญภัยอันน่าตื่นเต้นเพื่อไขปริศนาในอาณาจักรโบราณ
ที่ถ่ายทอดคุณค่าของการเสียสละและความงดงามของชีวิต

แวน ชายผู้ใช้ชีวิตมาอย่างโชกโชน หลังจากสูญเสียภรรยาและลูกไปด้วยโรคร้าย
เขาตัดสินใจเข้าร่วมกองทหารของ “เขาแหลมเดียวดาย” หน่วยรบแนวหน้าที่ปกป้องเมืองจาก
สึโอรุ จักรวรรดิอันยิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง แต่หน่วยของแวนกลับพ่ายแพ้อย่างย่อยยับ
เขาจึงถูกจับตัวมาเป็นทาสที่เหมืองเกลือ แต่แล้วกลับเกิดโรคระบาดที่คาดว่าฝูงหมาป่าดำเป็นตัวแพร่เชื้อขึ้น
ทำให้ผู้คนล้มตายกันหมด เหลือเพียงแวนกับเด็กน้อยคนหนึ่งที่รอดชีวิตมาแบบไม่น่าเชื่อ เขาจึงพาเธอหนีไปด้วยกัน

ระหว่างนั้นผู้ปกครองจักรวรรดิได้ส่ง ฮอซซัล หมอหนุ่มที่เก่งกาจ ไปที่เหมืองเกลือเพื่อสอบสวนโรค
เขาพบว่าเชื้อโรคนี้อาจเป็น "ไข้หมาป่าดำ" โรคระบาดโบราณที่เคยทำให้อาณาจักรแห่งหนึ่งล่มสลาย
จักรวรรดิจึงสั่งสายลับให้ตามล่าตัวแวนและเด็กเพื่อนำเลือดมาทำวัคซีน ทั้งสองจึงต้องหลบหนีการไล่ล่าและพยายามเอาตัวรอดให้ได้

‘ราชันกวาง 1’ เป็นผลงานของอุเอฮาชิ นาโฮโกะ ที่นอกจากจะได้รางวัลวรรณกรรมเยาวชนของญี่ปุ่นแล้ว
ยังชนะรางวัลนานาชาติ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "รางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมเยาวชน"
และผลงานชุดนี้ยังสร้างเป็นแอนิเมชันโดย ผู้กำกับจากสตูดิโอจิบลิอีกด้วย



5. สืบคดีปริศนา ผู้พิพากษา AI (AI Hotei no Hacker Bengoshi / AI 法廷のハッカー弁護士)

ผู้เขียน Jinzo Takeda
ผู้แปล พธูวดี บาลทิพย์
ออกแบบปก Por Thunwarath
จำนวน 488 หน้า
ราคา 399 บาท

ในวันที่ AI กลายมาเป็นผู้ตัดสินความยุติธรรม เมื่อผู้คนไม่ไว้ใจการทำหน้าที่ของมนุษย์บนบัลลังก์ศาล
แต่ AI จะทำให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมเพิ่มขึ้นจริงไหม นี่คือนิยายที่มีพล็อตเรื่องเฉียบขาด
และเข้ากับกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกในตอนนี้สุดๆ

เมื่อประเทศญี่ปุ่นในอนาคตอันใกล้ได้นำปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เข้ามาใช้ในการพิจารณาคดีแทนผู้พิพากษามนุษย์
ทำให้การพิจารณาคดีมีค่าใช้จ่ายถูกลงและรวดเร็วมากขึ้น จำนวนคดีที่ศาลต้องพิจารณาต่อปีจึงพุ่งพรวดหลายเท่าตัว

ในขณะที่สังคมเริ่มยอมรับการพิจารณาคดีและตัดสินโทษโดย AI ยังมีชายคนหนึ่ง
ผู้มีความสามารถวิเคราะห์ได้อย่างเยือกเย็นมองเห็นผู้พิพากษา AI เป็นเพียงแค่เครื่องจักร
คิชิมะ ยูเบ็ง ทนายความผู้ไร้พ่าย เบื้องหลังคือทนายไร้ศีลธรรม แฮ็กช่องโหว่ของ AI เพื่อให้ตนชนะคดี
ไม่มีใครรู้ตัวจริงของเขาจนเมื่อเขารับว่าความคดีหนึ่งซึ่งกลายเป็น จุดเริ่มต้นของการรื้อคดีที่เป็นจุดด่างพร้อยเดียวในอดีตกลับมาอีกครั้ง
และคดีนี้เอง ที่จะเป็นตัวตัดสินว่าผู้พิพากษา AI จะให้ความยุติธรรมได้ดีกว่ามนุษย์โหม

นิยายสืบสวนแนวทนายที่ดุเดือดไปด้วยลีลาฟาดฟันในชั้นศาล
ผลงานของนักเขียนดาวรุ่งที่น่าจับตามองคนหนึ่งของวงการวรรณกรรมญี่ปุ่น
ผู้เปิดตัวจากรางวัลชนะเลิศการประกวดของสำนักพิมพ์ฮายาคาวะ



6. เทพธิดาต้นการบูร (Kusunoki no Megami クスノキの女神)

ผู้เขียน Keigo Higashino
ผู้แปล เมธี ธรรมพิภพ
จำนวน 328 หน้า
ราคา 439 บาท

สิ้นสุดการรอคอย นี่คือนิยายภาคต่อของ ‘ผู้พิทักษ์ต้นการบูร’ ผลงานใหม่ล่าสุดของฮิงาชิโนะ เคโงะ
หากคุณเคยซาบซึ้งตรึงใจกับเรื่องราวของความคิดคำนึงและสายใยระหว่างผู้คนในเล่มแรกมาแล้ว
‘เทพธิดาต้นการบูร’ เล่มนี้จะทำให้คุณเข้าใจความหมายและความสำคัญของเวลา
ผลงานอบอุ่นใจแต่ก็แฝงการคลี่คลายปริศนาตามสไตล์ของอาจารย์เคโงะที่นักอ่านชื่นชอบมาตลอด

นาโออิ เรโตะ ยังคงทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ต้นการบูรแทน จิฟุเนะ ผู้เป็นอาซึ่งอาการโรคสมองเสื่อมเริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ
วันหนึ่ง ยูกินะ เด็กสาวมัธยมปลายมาขอวางขายบทกวีที่ศาลเจ้าซึ่งเขาเป็นผู้ดูแล เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว
ต่อมาเรโตะได้รู้จักเด็กหนุ่มชื่อ โมโตยะ ผู้ที่อ่านบทกวีของยูกินะแล้วเกิดแรงบันดาลใจอยากวาดภาพ
ทั้งสองคนจึงร่วมมือกันทำสมุดภาพเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเทพธิดาต้นการบูร

แต่แล้วก็เกิดคดีมีคนบุกรุกและทำร้ายเจ้าของบ้านแถวศาลเจ้า คนร้ายหนีมาซ่อนตัวแถวต้นการบูรและทิ้งเบาะแสบางอย่างไว้
เมื่อเรโตะรวบรวมข้อมูลจากตำรวจมาปะติดปะต่อกัน ก็ได้รู้ถึงเรื่องไม่คาดคิดที่อยู่เบื้องหลังคดีนี้
และคนร้ายที่ทุกคนกำลังตามหากลับเชื่อมโยงถึงความลับของยูกินะ เด็กสาวผู้เขียนบทกวีด้วย

‘เทพธิดาต้นการบูร’ เป็นผลงานเล่มใหม่ที่ตีพิมพ์พร้อมกันในประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้
ปริศนาอันอบอุ่นหัวใจของเหล่าผู้มาเยือนศาลเจ้าและต้นการบูรแห่งนี้ ยังคงซาบซึ้งกินใจและจะก่อให้เกิดปาฏิหาริย์อย่างที่คุณไม่อาจคาดเดา



7. ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ 2 (Kimi wo Mamoro to Suru Neko no Hanashi 君を守ろうとする猫の話)

ผู้เขียน นัตสึคาวะ โซสุเกะ
ผู้แปล ฉัตรขวัญ อดิศัย
จำนวน 280 หน้า
ราคา 329 บาท

นักอ่านหลายคนเริ่มรู้จักบิบลิโอก็จากการเดินทางของแมวลายเสือสีส้มตัวนี้
4 ปีผ่านไปการผจญภัยครั้งใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

ร่วมออกเดินทางอีกครั้งไปกับแมวลายเสือ เพื่อปกป้องหนังสืออันเป็นที่รักไม่ให้หายไปจากโลกใบนี้
ในนิยายภาคต่อของ ‘ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ’ ที่ครองใจผู้อ่านจนติดอันดับขายดียาวนาน และแปลไปแล้วถึง 40 ภาษา

ครั้งนี้เป็นการเดินทางสุดมหัศจรรย์ของโคซากิ นานามิ นักเรียนมัธยม เธอมีโรคประจำตัวจึงไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนไม่ค่อยได้
แต่ยังดีที่มีหนังสือเป็นเพื่อน นานามิจึงมักจะขลุกอยู่ในห้องสมุดแทบทุกวัน แต่หมู่นี้ เธอสังเกตว่าหนังสือในห้องสมุดหายไปอยู่เรื่อย

กระทั่งวันหนึ่ง นานามิเห็นชายร่างใหญ่ขโมยหนังสือไปกับตา จึงรีบตามไป แล้วเธอก็ได้พบกับโทระ แมวลายเสือพูดได้
ซึ่งพานานามิไปยังปราสาทอันเป็นที่อยู่ของเหล่าบุรุษสีเทาซึ่งกำลังวางแผนกำจัดหนังสือไปจากโลกนี้
การผจญภัยในเขาวงกตหนังสือครั้งใหม่จึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

‘ปาฏิหาริย์แมวลายส้มผู้พิทักษ์หนังสือ 2’ นิยายแฟนตาซีสุดอบอุ่นหัวใจที่คนรักหนังสือต้องหลงใหล
มาร่วมค้นหาและสานต่อประเด็นที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับพลังของหนังสือและการอ่านไปพร้อมกัน



8. จูนเสียงหัวใจใส่ทำนองชีวิต The Piano Tuner 尋琴者

ผู้เขียน กัวเฉียงเซิง (郭強生)
ผู้แปล รักสิริ
ภาพปก Thani
ออกแบบปก Por Thunwarath
จำนวน 224 หน้า
ราคา 195 บาท

เสียงดนตรี ความรัก และความฝันที่แตกสลาย
นิยายขนาดสั้นจากไต้หวันที่สั่นสะเทือนอารมณ์จากภายใน
และอาจทำให้บทเพลงเดิมฟังแล้วไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

หลินซัง นักธุรกิจวัยหกสิบที่ยังโศกเศร้ากับการจากไปของภรรยา
เขายังไม่รู้ว่าจะจัดการสตูดิโอสอนดนตรีและเปียโนของภรรยาอย่างไรดี
จนเมื่อได้พบกับช่างจูนเปียโนของสตูดิโอ

ไม่มีใครรู้ว่าครั้งหนึ่ง ช่างจูนเปียโนคนนี้เคยเป็นนักเปียโนผู้เปี่ยมพรสวรรค์
จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขาละทิ้งความฝันอันยิ่งใหญ่ไป
แล้วหันมาเป็นช่างจูนเปียโนผู้ไร้ตัวตนในโลกดนตรีแทน

เมื่อหลินซังได้ไอเดียการเปิดร้านขายเปียโนมือสอง
เขาก็พาช่างจูนเปียโนไปเฟ้นหาเปียโนที่นิวยอร์กด้วยกัน
การเดินทางครั้งนี้นำไปสู่การแสวงหาความงามของดนตรีและความรัก
รวมถึงค่อย ๆ เปิดเผยความลับที่ทำให้ช่างจูนเปียโนหัวใจสลาย

‘จูนเสียงหัวใจใส่ทำนองชีวิต’ คว้ารางวัลทางวรรณกรรมของไต้หวันมาหลายรายการ
ได้รับการยกย่องว่าเป็นนิยายร่วมสมัยที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งของไต้หวัน และฉบับแปลไทย
โดยสนพ. Bibli ได้รับทุนสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรมแห่งประเทศสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)



9. ฆาตกรรมสามัญประจำบ้าน Everyone In My Family Has Killed Someone

ผู้เขียน Benjamin Stevenson
ผู้แปล ทศพล ศรีพุ่ม
ออกแบบปก Por Thunwarath
จำนวน 472 หน้า
ราคา 449 บาท

“ทุกๆ คนในครอบครัวของผมล้วนเคยฆ่าคนมาแล้วทั้งนั้น”

นี่คือประโยคเปิดของผลงานที่บิดทุกกฎของนิยายฆาตกรรม
เมื่ออารมณ์ขันจิกกัดสุดแสบผสมกับกลเม็ดแยบยลแบบงานสืบสวนระดับคลาสสิค แค่เปิดเรื่องมาก็รับรองความสนุกแล้ว

เออร์เนสต์ คันนิงแฮม เป็นนักเขียนคู่มือวิธีการเขียนหนังสือ ครอบครัวของเขาไม่ใช่แหล่งรวมตัวของเหล่าฆาตกรโรคจิต
เป็นแค่คนธรรมดาที่มาจัดงานรวมญาติในสกีรีสอร์ตกลางภูเขาหิมะ และงานครั้งนี้ก็แสนพิเศษเพราะพี่ชายของเออร์เนสต์
ที่เพิ่งออกจากคุกจะมาร่วมงานด้วย แต่จู่ ๆ กลับมีศพปริศนาปรากฏขึ้นอย่างไม่มีที่มาที่ไปและไม่มีใครรู้จักผู้ตาย
แล้วก็มีฆาตกรต่อเนื่องที่รู้จักกันในชื่อ ‘ลิ้นดำ’ เข้ามาพัวพัน ไหนจะเรื่องเงินสด 267,000 ดอลลาร์ที่เป็นสาเหตุให้
เออร์เนสต์ส่งพี่ชายตัวเองเข้าคุก จนต้องบาดหมางกับคนในครอบครัว ในสถานการณ์ปกติ หลายคนคงหวาดกลัวว่า
ตัวเองจะตกเป็นเหยื่อรายต่อไป แต่ออร์เนสต์กลับกังวลว่าใครสักคนในครอบครัวคันนิงแฮมจะเป็นฆาตกรมากกว่า
เพราะอย่างที่เขาบอกไว้แต่ต้นว่า “ทุกๆ คนในครอบครัวของผมล้วนเคยฆ่าคนมาแล้วทั้งนั้น”

ฆาตกรรมสามัญประจำบ้าน นิยายสืบสวนชวนหัวผสมมุกตลกจิกกัดสุดแสบที่จะทำให้คุณทั้งหัวเราะค้างและสะดุ้งเฮือก
กับปมปริศนาชวนตะลึง ผลงานขายดีของ เบนจามิน สตีเวนสัน นักเขียนและนักแสดงตลกชื่อดัง ซึ่งขายลิขสิทธิ์ไปแล้วกว่า
24 ประเทศทั่วโลก และอยู่ระหว่างการสร้างเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ทาง HBO TV



10. เด็กสาวที่สูญหายใต้อาทิตย์เที่ยงคืน The Silver Road

ผู้เขียน Stina Jackson
ผู้แปล เจนจิรา เสรีโยธิน
ภาพปก RanuthTong
ออกแบบปก Por Thunwarath
จำนวน 336 หน้า
ราคา 379 บาท

นิยายแนวนอร์ดิก นัวร์ ที่พาคุณไปร่วมค้นหาว่าจะมีสิ่งใดที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าปริศนาดำมืดในความเป็นมนุษย์ของเราเองอีกหรือไม่
งานวรรณกรรมที่อ่านสนุกจากสวีเดน เต็มไปด้วยการสร้างบรรยากาศที่ชวนหลอกหลอน และคาดเดาไม่ได้ว่าหน้าต่อไปคุณกำลังจะเจอกับอะไร

สามปีก่อน ลูกสาววัยรุ่นของ เลนเลอ หายไปอย่างลึกลับริมถนนซิลเวอร์โรด ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศสวีเดน
หลังจากนั้น ช่วงหน้าร้อนที่กลางคืนยังคงสว่างราวกลางวัน เลนเลอจะขับรถไปตามถนนอันยาวเหยียดคดเคี้ยวทุกค่ำ
ในขณะที่ทุกคนหลับใหล เพราะเขาไม่เชื่อว่าลูกสาวตายแล้ว จึงดิ้นรนอย่างไม่ลดละทุกวิถีทางเพื่อค้นหาความจริง

เมยา เด็กสาวอายุสิบเจ็ดปีเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับเลนเลอ
ด้วยความหวังว่าจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอเป็นเพียงเด็กสาวที่โหยหาความมั่นคงและบ้านที่อบอุ่น
ทว่าพื้นที่ห่างไกลตัดขาดจากโลกภายนอกเช่นนี้จะเป็นบ้านอันปลอดภัยให้เธอได้จริงหรือ

ความสิ้นหวังและความโดดเดี่ยวในเมืองที่หนาวเหน็บ
ผลักดันให้ชีวิตของเลนเลอกับเมยาเริ่มร้อยรัดพันเกี่ยวเข้าด้วยกันในแบบที่ไม่มีใครคาดคิด
บนถนนอันวังเวงสายนี้ ชีวิตของทั้งสองคนจะเป็นอย่างไรต่อไป



11. หากถามว่าชีวิตที่ผ่านมาฉันเคยเสียใจเรื่องไหนที่สุด
If You Asked Me What My Biggest Regret
Regret 인생에서가장후회되는게뭐냐고묻는다면


ผู้เขียน KnowT
ผู้แปล ธิญาดา สิทธิจารย์
ภาพปก Atelier Pakawan
ออกแบบปก Por Thunwarath
จำนวน 232 หน้า
ราคา 295 บาท

ชีวิตของคนเรามีเวลาจำกัด บางครั้งเราจึงอดใจหายไม่ได้ เมื่อนึกว่าเหลือเวลาให้ทำตามความฝันอีกแค่ไหน
และที่ผ่านมาเราใช้เวลาไปแบบสูญเปล่าหรือไม่ นี่คือหนังสือเล่มดังที่มียอดวิวทาง SNS ในประเทศเกาหลีมากกว่า 10 ล้านครั้ง

รวมเรื่องราวสุขเศร้า ผิดหวัง สมหวัง มุ่งมั่นตั้งใจ และเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจของ 35 บุคคลที่หลายคนรู้จักดี
อาทิ เบนจามิน แฟรงกลิน, แบงก์ชี, ปาโบล ปิกัสโซ, ริวอิจิ ซากาโมโตะ, เอ็มมา วัตสัน และโจเซฟ พิลาทีส เป็นต้น

เราอาจเห็นภาพพวกเขาประสบความสำเร็จ แต่แท้จริงชีวิตไม่ได้งดงามและง่ายไปหมดทุกส่วน
ทุกคนต่างมีอดีตหลากหลายทั้งดีร้าย แต่ถึงจะมีช่วงเวลายากลำบาก
พวกเขาก็เอาชนะกำแพงใหญ่ที่ขวางกั้นด้วยการทำในสิ่งที่ตนยึดมั่น
และนำพาชีวิตไปสู่ความพึงพอใจโดยไม่ต้องรู้สึกเสียใจภายหลัง

KnowT ผู้เขียน เชื่อมโยงความรู้ด้านมนุษยศาสตร์และปรัชญาเข้ากับชีวิตประจำวัน
ผ่านเรื่องราวของผู้คนที่ไม่ยอมแพ้ ภาพชีวิตของพวกเขาจะมอบแรงบันดาลใจในเราก้าวไปข้างหน้า
ลงมือทำสิ่งที่มีความหมาย ไม่จมจ่ออยู่กับความผิดพลาด และเห็นคุณค่าของเวลาที่มีจำกัด

ไม่เป็นไรหากเราเคยล้มเหลวหรือผิดหวังในตัวเอง
ไม่สำคัญว่าที่ผ่านมาเราใช้เวลาไปแบบสูญเปล่าหรือไม่
เพราะเราเริ่มลงมือทำบางสิ่งอย่างได้เลยตั้งแต่วันนี้

“หากคุณมุ่งมั่นในสิ่งที่เชื่อ เรื่องมหัศจรรย์ก็จะเกิดขึ้น” — เอ็มมา วัตสัน กล่าวไว้



12. เมโทรโพลิส มหานครในกาลเวลา Metropolis : A History of Humankind’s Greatest Invention

ผู้เขียน Ben Wilson
ผู้แปล โตมร ศุขปรีชา
ภาพปก Maewsow
ออกแบบปก Por Thunwarath
จำนวน 592 หน้า
ราคา 629 บาท

นี่คือหนังสือที่อ่านแล้วชวนให้ตื่นตะลึงไปกับความลึกลับของเมืองในอดีตจนถึงปัจจุบัน
เรื่องราวที่นักโบราณคดีก็ยังตอบไม่ได้ว่า ทำไมอารยธรรมของบางเมืองในกาลก่อนมันถึงได้ล้ำหน้าไปไกลได้เพียงนี้

ประวัติศาสตร์ 26 มหานครสำคัญของโลกที่เคยรุ่งเรือง ทั้งที่ล่มสลาย ถูกลืม และที่ยังคงอยู่ ข้ามผ่านกาลเวลากว่า 7,000 ปี
เราจะพบว่ามนุษย์เป็นผู้สร้างเมืองขึ้นมา ในขณะเดียวกันก็ถูกหล่อหลอมโดยลมหายใจและชีพจรเมืองด้วย

เบน วิลสัน ผู้เขียนจะพาทุกคนเดินทางไปกับเรื่องราวของการสร้างและการดำรงอยู่ของเมืองสำคัญในโลก
นับแต่ยุค 4,000 ปีก่อนคริสตกาล อย่าง อูรุก ฮารัปปา เอเธนส์ และโรม ก่อนจะข้ามไปยังเมืองในโลกหลังคริสตกาลอย่าง
ลือเบ็ค ลอนดอน นิวยอร์ก ชิคาโก แบกแดด เซี่ยงไฮ้ โตเกียว เลกอส และอื่นๆ

‘เมโทรโพลิส มหานครในกาลเวลา’ อัดแน่นด้วยข้อมูลที่เรียงร้อยออกมาได้น่าอ่าน พร้อมภาพประกอบสี่สีในเล่ม
สะท้อนหลากหลายแง่มุมของความเป็นมหานคร ไม่ว่าจะเป็นความหรูหราตระการตา ความสกปรกโสมม ความโหดเหี้ยม
ความเป็นระเบียบเรียบร้อย การเกิดขึ้นและการล่มสลายไป เมื่อได้อ่านแล้วเราจะเข้าใจโลกและเมืองที่เราอาศัยอยู่มากยิ่งขึ้น



=======================================================
ที่มา fb BibliopublishingTH

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น