วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564

แจ้งข่าวนิยาย Sunday Afternoon : เดือน ตุลาคม 2564

********************************************************

คุณโทมาริ นักจัดบ้านด้วยการจัดใจ
あなたの人生、片づけます
Anata no Jinsei, Katazukemasu


ผู้เขียน: Miu Kakiya
ผู้แปล: กนกวรรณ เกตุชัยมาศ
จำนวนหน้า: 344 หน้า
ราคาปก: 350 บาท

“คนที่เก็บกวาดห้องให้เรียบร้อยไม่ได้คือคนที่มีปัญหาทางใจ”
ด้วยความเชื่อเช่นนี้ งานหลักของโทมาริ โอบะ นักจัดบ้านหญิงวัยห้าสิบสี่
จึงไม่ใช่การช่วยทำความสะอาดบ้านให้เหล่าลูกค้า แต่เป็นการแนะแนววิธีจัด “เก็บ” หรือเลือก
“ทิ้ง” ข้าวของรอบตัว ซึ่งจะส่งผลต่อการเปลี่ยนมุมมองความคิดในการใช้ชีวิตของผู้คนเหล่านั้น

ฮารุกะ นางาซาวะ สาวออฟฟิศอายุสามสิบสอง ผู้หมดไฟในการทำงาน

เท็นโซ คูนิโทโมะ ช่างฝีมือทำปลาไม้วัยหกสิบกว่า ที่สูญเสียภรรยาไปด้วยโรคมะเร็ง

เอโกะ ซาเอกุสะ หญิงชราอายุเจ็ดสิบแปด
อาศัยในคฤหาสน์หลังใหญ่ตัวคนเดียวไร้การเหลียวแลจากลูกหลาน

มามิโกะ อิเคดะ แม่บ้านวัยสี่สิบกลางๆ อดีตพนักงานต้อนรับของสายการบินระหว่างประเทศ
ปัจจุบันทำความสะอาดบ้านได้แค่เพียงห้องเดียว

ต่างอาชีพ ต่างวัย ต่างสะสมสิ่งของและเรื่องราวต่างกันไป สิ่งที่อยู่เบื้องหลังการใช้ชีวิตรกๆ ของพวกเขาคืออะไร  
คุณเองกำลังประสบปัญหาคล้ายๆกับพวกเขาอยู่หรือไม่ให้นิยายเล่มนี้ช่วยประเมินและไขคำตอบ



*********************************************************

วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2564

แจ้งข่าวนิยาย Hummingbooks : เดือน ตุลาคม 2564

********************************************************

1. หากสมองฉันไม่ได้ฟั่นเฟือน 私の頭が正常であったなら Watashi no Atama ga Seijou de Attanara

ผู้เขียน: Asako Yamashiro (หนึ่งในนามปากกาของนักเขียน Hirotaka Adachi หรือที่รู้จักกันในนามปากกา Otsuichi)
ผู้แปล: พรพิรุณ กิจสมเจตน์
ออกแบบปก: ญาดา ฤทธิมัต
จำนวนหน้า: 224 หน้า
ราคาปก: 265 บาท

ผลงานสุดสะเทือนอารมณ์เรื่องเยี่ยมจากผู้เขียน
ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘นักเขียนอัจฉริยะไอเดียแหวกแนว’

รวม 7 เรื่องสั้นเกี่ยวกับ ‘ความสูญเสีย’
ที่เข้าถึงเบื้องลึกของอารมณ์ แม่ผู้ทำความรักที่มีต่อลูกหล่นหาย
- นักเขียนผู้หมดสิ้นเรื่องราวที่อยากเขียน
- หญิงผู้ถูกอดีตสามีพรากชีวิตลูกน้อยไปต่อหน้าต่อตา
- คู่รักผู้สามารถหยั่งรู้อนาคตโดยแลกกับความทรงจำ
- สองสามีภรรยาผู้ถูกรบกวนชีวิตประจำวันเพราะจู่ๆ มองเห็นวิญญาณ
- เด็กสาวผู้พลาดพลั้งเสียชีวิตในอุบัติเหตุ
- ไก่ประหลาดที่แม้คอขาดก็ยังมีลมหายใจ

หลากเรื่องราวซึ่งอวลด้วยความรันทดทว่างดงาม
ที่จะมอบแสงสว่างแห่งความหวังแก่ผู้ที่ต้องเผชิญความสูญเสีย
ให้ก้าวเดินต่อไปได้แม้ในใจจะหม่นเศร้า



2. คดีฆาตกรรมซูชิจานหมุน 回転寿司殺人事件 Kaiten Sushi Satsujin Jiken

ผู้เขียน: Tatsuya Yoshimura
ผู้แปล: ฉัตรขวัญ อดิศัย
จำนวนหน้า: 304 หน้า
ราคาปก: 325 บาท

นักสืบวาคุอิได้พบกับเรนไดจิ มิโดริ หญิงสาวผู้เป็นรักแรกซึ่งมีพลังเหนือธรรมชาติอ่านใจคนได้
และตอนนี้เธอเป็นชู้รักของหนุ่มนักธุรกิจเจ้าของร้านซูชิจานหมุน  

จากนั้นไม่นานก็เกิดคดีฆาตกรรมขึ้นไล่เลี่ยกันถึงสองครั้ง
คดีแรก ... มีคนถูกฆ่าด้วยยาพิษในอะพาร์ตเมนต์เก่า
อีกคดี ... เกิดเหตุแทงกันตายในอุโมงค์รถไฟร้าง
ซึ่งผู้ต้องสงสัยของทั้งสองคดีนี้คือรักแรกของนักสืบหนุ่ม!  

วาคุอิจำต้องละทิ้งความรู้สึกส่วนตัวเพื่อไขคดีฆาตกรรมสุดซับซ้อน
โดยหารู้ไม่ว่า ‘คำบอกใบ้’ ที่จะช่วยคลี่คลายคดีทั้งหมดนั้น
ถูกซุกซ่อนอยู่ในระบบของซูชิสายพาน ... อาหารโปรดของเขานั่นเอง!  

ผลงานเรื่องเยี่ยมอันเป็นส่วนผสมระหว่าง ‘ปริศนา’ กับ ‘ของอร่อย’ ส่งตรงจากปลายปากกา
ของนักเขียนชั้นแนวหน้าผู้เป็น ‘คอซูชิตัวยง’ เจ้าของนิยายชุด ‘มรดกโลกของญี่ปุ่น’



*********************************************************

แจ้งข่าวนิยาย Bibli : เดือน ตุลาคม 2564

********************************************************

ยังไงฉันก็จะเลิกงานตรงเวลาค่ะ I will not work overtime
わたし、定時で帰ります。 Watashi, Teiji de Kaerimasu


ผู้เขียน: Kaeruko Akeno
ผู้แปล: ฉัตรขวัญ อดิศัย
จำนวนหน้า: 320 หน้า
ราคาปก: 329 บาท

ในสังคมญี่ปุ่นที่การทำงานล่วงเวลาเป็นเรื่องสุดแสนธรรมดา
ฮิงาชิยามะ ยุย พนักงานหญิงแห่งบริษัท เน็ต ฮีโรส์ จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดดิจิทัล
มีความหลังฝังใจในอดีตเกี่ยวกับพ่อผู้บ้างาน จึงตั้งปณิธานว่าจะกลับบ้านตรงเวลาทุกวัน
เพราะไม่ต้องการเดิมพันชีวิตกับงาน แล้วยังคอยโน้มน้าวคนรอบข้างให้หยุดพักบ้าง
เพราะไม่อยากให้ใครต้องมีชะตากรรมเดียวกับครอบครัวของตัวเองในอดีต
โชคดีว่าสภาพแวดล้อมในบริษัทเอื้ออำนวยให้คนทำงานมีประสิทธิภาพแบบเธอกลับบ้านตรงเวลาได้อย่างสม่ำเสมอ

แต่อยู่มาวันหนึ่งกระแสลมก็เปลี่ยนทิศอันมีเหตุจากผู้จัดการที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่
ฟุคุนางะ เซจิ เคยเป็นเจ้าของบริษัทที่พนักงานลาออกเป็นจำนวนมากเพราะสาเหตุบางประการ
พอย้ายมาเป็นผู้จัดการที่บริษัทนี้ได้ไม่ทันไรก็ตกปากรับคำลูกค้าในการทำโครงการบ้าบิ่นด้วยงบประมาณจำกัดจำเขี่ย
จำนวนคนน้อยนิด และเงื่อนไขว่าห้ามทำให้บริษัทขาดทุน สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าอย่างหนักให้แก่ยุย
และสั่นคลอนปณิธานในการกลับบ้านตรงเวลาของเธอ ซ้ำร้ายเธอยังต้องคอยรบรากับลูกค้าผู้ชอบทำอะไรตามอำเภอใจด้วย

มิหนำซ้ำสมาชิกในทีมแต่ละคนก็ใช่ย่อยเสียเมื่อไร

มิทานิ คานาโกะ พนักงานหญิงดีเด่นผู้ไม่เคยไม่เคยลาและพร้อมจะทำงานล่วงเวลา
เป็นไม้เบื่อไม้เมากับยุย ชอบแขวะยุยที่กลับบ้านตรงเวลาอยู่เสมอ

ชิซุงะทาเคะ ยาเอะ ซูเปอร์เวิร์กกิ้งมัม คุณแม่ที่ลาคลอดแค่หกสัปดาห์
เธอกลับมาด้วยความมุ่งมั่นว่ายอมทำงานหนักทุกรูปแบบเพื่อเป็นผู้บริหารหญิงในอนาคต

คุรุสึ ไทโตะ พนักงานวัยละอ่อน คนรุ่นใหม่ที่มีฝีมือ แต่มักจะเอะอะอยากลาออกท่าเดียวเป็นต้น

ทว่ายุยก็ตัดสินใจเด็ดขาดรับตำแหน่งชีฟของโครงการสุดโหด
ทั้งที่เคยอิดออดไม่อยากรับตำแหน่งสำคัญเพราะจะเป็นตัวขัดขวางการกลับบ้านตรงเวลา
ในการรับตำแหน่งครั้งนี้ เธอมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าว่าจะทำให้สมาชิกทุกคนในทีมกลับบ้านตรงเวลาให้ได้!!

แถมยังมีเรื่องวุ่นๆ เกี่ยวกับปัญหาหัวใจ เมื่อ ทาเนดะ โคทาโร่ อดีตคู่หมั้น ย้ายมาทำงานเป็นหัวหน้าของเธออีกด้วย

ภารกิจของยุยจะสำเร็จหรือไม่ เธอจะฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการได้หรือเปล่า
เรื่องราวสุดป่วนในสังคมบริษัทและการฟาดฟันระหว่างค่านิยมเกี่ยวกับ
การทำงานของสังคมยุคก่อนกับสังคมยุคใหม่กำลังจะอุบัติขึ้นแล้ว



นิยายเรื่องนี้เคยนำไปสร้างเป็นละครทีวี ความยาว 10 ตอนจบ ออกอากาศทางสถานี TBS วันที่ 16 เม.ย. 2562 จนถึงวันที่
25 มิ.ย. 2562 นำแสดงโดย Yuriko Yoshitaka รับบทเป็น Yui Higashiyama และ Osamu Mukai รับบทเป็น Kotaro Taneda



*********************************************************

แจ้งข่าวนิยาย กำมะหยี่ : เดือน ตุลาคม 2564

********************************************************

1. ปีศาจที่เล็กซิงตัน Lexington Ghosts レキシントンの幽霊 Lexington no Yurei ฉบับพิมพ์ใหม่ (ปกแบบเก่า)

ผู้เขียน: Haruki Murakami
จำนวนหน้า: 173 หน้า
ราคาปก: 250 บาท

นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเมื่อหลายปีก่อน ด้วยเหตุบางอย่าง ผมจึงเปลี่ยนเฉพาะชื่อบุคคล นอกเหนือจากนั้นคือความจริง
-ปีศาจที่เล็กซิงตัน

พอสามีออกไปทำงานเหมือนเช่นทุกวัน ฉันผู้ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวก็ไม่มีอะไรทำแล้ว
ฉันนั่งอยู่บนเก้าอี้ริมหน้าต่างตามลำพัง จ้องมองสวนจากช่องผ้าม่านอยู่อย่างนั้น
-ปีศาจตัวเขียว

ผมหันไปทางคุณโอซาวะ แล้วลองเอ่ยถามดูว่า จนถึงตอนนี้เคยทะเลาะจนต่อยหน้าใครไหม
คุณโอซาวะหรี่ตามองหน้าผมราวกับมองอะไรบางอย่างที่สว่างจ้า“ทำไมถึงถามเรื่องนั้นขึ้นมาล่ะครับ”
-ความเงียบ

ฉันแต่งงานกับบุรุษน้ำแข็ง ฉันได้พบกับเขา ณ โรงแรมสกีรีสอร์ตแห่งหนึ่ง น่าจะเป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดในการได้รู้จักกับเขาแล้ว
-บุรุษน้ำแข็ง

ชื่อจริงของโทนี ทากิตานิ คือ โทนี ทากิตานิ จริงๆ
-โทนี ทากิตานิ

ตอนที่คลื่นลูกนั้นพยายามจับตัวผม เป็นยามบ่ายคล้อยในเดือนกันยายน ปีที่ผมอายุสิบขวบ
-ชายคนที่เจ็ด

เมื่อหลับตาลง ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสายลม สายลมแห่งเดือนพฤษภาคมที่อวบอิ่มราวกับผลไม้
ผลไม้ที่มีเปลือกขรุขระ เนื้อในเป็นเมือกลื่น และมีเมล็ดพันธุ์เล็กๆ มากมายภายใน
-ต้นหลิวตาบอด กับ หญิงสาวผู้หลับใหล



2. หิ่งห้อย โรงนามอดไหม้ และเรื่องอื่นๆ Firefly, Barn Burning and other stories
螢・納屋を焼く・その他 の短編  Hotaru, Naya wo Yaku, Sonota no Tanpen ฉบับพิมพ์ใหม่
(เคยพิมพ์ออกมาในชื่อว่า เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน)


ผู้เขียน: Haruki Murakami
จำนวนหน้า: 173 หน้า
ราคาปก: 250 บาท

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว... ถึงจะเริ่มต้นด้วยคำกล่าวนี้ แต่ก็เป็นเรื่องที่ผ่านมาอย่างมากแค่สิบสี่สิบห้าปี
ผมอาศัยอยู่หอพักนักศึกษาแห่งหนึ่ง ตอนนั้นผมอายุสิบแปด
-หิ่งห้อย

ผมพบเธอในงานฉลองแต่งงานของคนรู้จัก จากนั้นก็เริ่มสนิทกัน
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน ผมกับเธออายุห่างกันเกือบหนึ่งรอบ
-โรงนามอดไหม้

คนแคระปรากฏกายในความฝัน แล้วถามผมว่ามาเต้นระบำกันไหม
-คนแคระเต้นระบำ

เมื่อยืดหลังจนตึงแล้วหลับตาลง ผมได้กลิ่นของสายลม เป็นสายลมที่มีมวลก้อนพองกลมราวกับผลไม้บางอย่าง
เปลือกของมันมีผิวสัมผัสหยาบสากมือ เนื้อชุ่มไปด้วยเมือก และมีเมล็ดอยู่เต็มไปหมด
-ต้นหลิวตาบอดกับหญิงสาวผู้หลับใหล

เซ็กส์ การร่วมเพศ ร่วมประเวณี การสังวาส หรือจะเป็นคำอื่นใดที่นอกเหนือจากนั้นก็ตามแต่
สิ่งที่ผมจินตนาการขึ้นจากถ้อยคำ การกระทำ และปรากฏการณ์ประเภทนั้น มักจะเป็นพิพิธภัณฑ์ฤดูหนาวเสมอ
-สามเรื่องเพ้อฝันแห่งเยอรมนี



3. การบุกปล้นร้านขนมปังครั้งที่สอง The Second Bakery Attack
パン屋再襲撃 Panya Saishuugeki
(ชื่อเดิม คำสาปร้านเบเกอรี ปกแบบเก่า 1, ปกแบบเก่า 2)


ผู้เขียน: Haruki Murakami
จำนวนหน้า: 197 หน้า
ราคาปก: 250 บาท

6 เรื่องสั้น จากนักเขียนชื่อเลื่องชาวญี่ปุ่น มีเรื่องที่เป็นจุดกำเนิดของ ‘บันทึกนกไขลาน’ และเรื่องที่สานต่อจาก ‘พินบอล, 1973’
หลายคนรู้จักรวมเรื่องสั้นเล่มนี้ในชื่อ "คำสาปร้านเบเกอรี" สำหรับในการจัดแปลจากภาษาญี่ปุ่นในครั้งนี้
เปลี่ยนชื่อแปลตามตัวอักษรและเรื่องราวตรงๆ (หรือทื่อๆ) ว่า "การบุกปล้นร้านขนมปังครั้งที่สอง"

จนกระทั่งป่านนี้ ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าการที่ผมเล่าเรื่องบุกร้านขนมปังให้ภรรยาฟังเป็นทางเลือกที่ถูกต้องหรือไม่
-การบุกปล้นร้านขนมปังครั้งที่สอง

ผมทราบเรื่องที่ช้างหายสาบสูญไปจากโรงช้างของเทศบาลผ่านทางหนังสือพิมพ์
วันนั้นผมลืมตาตื่นด้วยเสียงกระดิ่งจากนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้เวลาหกโมงสิบสามนาที
-ช้างหาย

เรื่องแบบนี้อาจจะเป็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นบ่อยในโลกใบนี้ ผมทำใจชอบคู่หมั้นของน้องสาวไม่ค่อยได้มาตั้งแต่แรก
-เรื่องในครอบครัว

หลังจากผมแยกกับฝาแฝดคู่หนึ่งประมาณครึ่งปี ผมก็ได้เห็นพวกเธออีกครั้งในนิตยสารเกี่ยวกับการถ่ายภาพ
-คู่แฝดและทวีปที่จมลง

ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นโทรศัพท์มาหา ผมกำลังลวกเส้นสปาเกตตี้อยู่ในครัว เส้นสปาเกตตี้กำลังจะสุกได้ที่
-นกไขลานกับเหล่าหญิงวันอังคาร

ผมรู้สึกว่าสายลมเริ่มพัดในยามบ่ายวันอาทิตย์ พูดให้แม่นยำลงไปคือตอนบ่ายสองโมงเจ็ดนาที
-อาณาจักรโรมันล่มสลาย ชาวอินเดียนลุกฮือในปี 1881 ฮิตเลอร์รุกรานโปแลนด์ และโลกแห่งลมรุนแรง



เรื่องสั้น การบุกปล้นร้านขนมปังครั้งที่สอง เคยนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์สั้น The Second Bakery Attack
กำกับโดย Carlos Cuarón นำแสดงโดย Kirsten Dunst รับบทเป็น Nat และ Brian Geraghty รับบทเป็น Dan



4. สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง First Person Singular
一人称単数 Ichininshou Tansuu


ผู้เขียน: Haruki Murakami
จำนวนหน้า: 197 หน้า
ราคาปก: 250 บาท

เรื่องราวความรัก ความโดดเดี่ยว การแก่ชรา ความทรงจำ เรื่องคล้ายจะสมจริงบ้าง
เรื่องกึ่งแฟนตาซีบ้าง โดยมีเสียงดนตรีแจ๊สและคลาสสิกคลอบรรยากาศตลอดเล่ม

‘สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง’ ดำเนินเรื่องตามชื่อเล่ม ผู้บรรยายคือ 'ผม' สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง
ส่วนใหญ่เป็นชายวัยกลางคน ใคร่ครวญ ครุ่นคิด คำนึงถึงความหลังครั้งเก่า เล่าเรื่องราวความรัก
ความโดดเดี่ยว การแก่ชรา ความทรงจำ เรื่องคล้ายจะสมจริงบ้าง เรื่องกึ่งแฟนตาซีบ้าง
โดยมีเสียงดนตรีแจ๊สและคลาสสิกคลอบรรยากาศตลอดเล่ม

มีธรรมเนียมสืบทอดมายาวนานในการเขียนวรรณกรรมแนวอัตชีวประวัติยุคสมัยใหม่ของญี่ปุ่น
ที่เรียกว่า ไอ-โนเวล (นวนิยายว่าด้วยตัวข้าพเจ้าเอง) ในเรื่องแนวความคิดที่ว่า
ความจริงใจนั้นอยู่ในการเขียนเรื่องราวชีวิตของตนแบบซื่อสัตย์และเปิดเผย
ทำให้เป็นการสารภาพบาปชนิดหนึ่ง ผมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนั้นและต้องการสร้างการเขียน
โดยใช้ 'สรรพนามบุรุษที่หนึ่ง' ของตัวเอง  --  ฮารูกิ  มูราคามิ



*********************************************************

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2564

แจ้งข่าวนิยาย Daifuku : เดือน ตุลาคม 2564

********************************************************

1. ผู้มาเยือน 新参者 Shinzanmono (Kyoichiro Kaga Series เล่ม 8)

ผู้เขียน: Keigo Higashino
ผู้แปล: ฉัตรขวัญ อดิศัย)
จำนวนหน้า: 292 หน้า
ราคาปก: 310 บาท

มีหญิงถูกฆ่ารัดคอในมุมหนึ่งของนิฮมบาชิ
สิ่งที่ขวางกั้นเบื้องหน้าคางะ เคียวอิจิโร่ ตำรวจสืบสวนที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง คือปริศนาแห่งจิตใจที่คำนึงถึงผู้อื่น
ผู้ให้เบาะแสคือคนธรรมดาทั่วไปซึ่งอาศัยอยู่ในย่านที่หลงเหลือบรรยากาศของยุคเอโดะ “ถ้ามีใครทุกข์ใจเพราะคดี
การช่วยคนเหล่านั้นก็คือหน้าที่ของผมครับ” ปริศนาที่อุบัติขึ้นเพราะต้องการปกป้องคนสำคัญกำลังจะเชื่อมโยงไปสู่คนร้าย



นิยายเรื่องนี้ได้นำไปสร้างเป็นละครทีวี ความยาว 10 ตอนจบ ออกอากาศทางสถานี TBS วันที่ 18 เม.ย. 2553 จนถึงวันที่
20 มิ.ย. 2553 Daisuke Yamamuro, Shunichi Hirano, Yasuharu Ishii และ Satoshi Kan ร่วมกันกำกับ, Keisuke Makino
กับ Katsunari Mano ร่วมกันเขียนบท โดยยังคงได้ Hiroshi Abe กลับมารับบทเป็น Kyoichiro Kaga เช่นเดิม



Kyoichiro Kaga Series
01. ฆาตกรรมหิมะ พระจันทร์ ดอกไม้ Sotsugyo - Setsugetsuka Satsujin Game
02. ป่านิทรา Nemuri no Mori
03. ใครฆ่าเธอ Dochiraka ga Kanojo wo Koroshita
04. เจตนาร้าย Akui
05. ตายวันแต่ง Watashi ga Kare wo Koroshita
06. โกหก "น่า" ตาย Uso wo Mou Hitotsu Dake [Nation Books เคยพิมพ์ออกมาในปี 2551 ใช้ชื่อเรื่องว่า อย่าหลุดว่าฆ่า]
07. นิ้วสีแดง Akai Yubi เคยนำไปสร้างเป็นละครทีวีตอนพิเศษ ใช้ชื่อเรื่องว่า
Akai Yubi Shinzanmono Kaga Kyouichiro Futatabi! ออกอากาศทาง TBS ปี 2554
08. ผู้มาเยือน Shinzanmono เคยนำไปสร้างเป็นละครทีวี 10 ตอนจบ ออกอากาศทาง TBS ปี 2553
09. Kirin no Tsubasa เคยนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2555
10. Inori no Maku ga Oriru Toki เคยนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น
ไปเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2561 และติดอันดับภาพยนตรฺ์ญี่ปุ่นทำเงินสูงสุดในจีน ประจำปี 2562



2. Silent Tokyo ไซเลนต์ โตเกียว サイレント・トーキョー

ผู้เขียน: Hata Takehiko
ผู้แปล: เกวลิน ลิขิตวิทยาวุฒิ
จำนวนหน้า: 248 หน้า
ราคาปก: 280 บาท

ใกล้คริสต์มาสแล้วอีกไม่กี่วัน

โตเกียว - เมืองหลวงของญี่ปุ่นที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนและห้างร้านมากมาย ต่างพากันประดับประดาดวงไฟ
และตกแต่งต้นคริสต์มาสจนสวยสว่างไปทั่วทั้งเมือง เพื่อเตรียมเฉลิมฉลองในเทศกาลแห่งความสุขนี้ …
ซึ่งไม่ใช่เวลาที่จะมาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้ขึ้น

เมื่อทางรายการข่าว ‘นิวส์ ดอกเตอร์’ ของสถานีโทรทัศน์ช่องเคเอ็กซ์ ได้รับโทรศัพท์ปริศนาโทร.มาเตือนว่า
มีการวางระเบิดที่สถานีรถไฟเอบิสุ โดยคนร้ายในเงามืดได้ออกอุบายบังคับให้ ยามางุจิ ไอโกะ แม่บ้านวัยกลางคน
และ คุรุสุ โคตะ สตาฟรายการข่าวทีวี เป็นผู้ร่วมลงมือก่อวินาศกรรมกลางเมืองในครั้งนี้

ช่วงสถานการณ์วุ่นวายนี้ อยู่ภายใต้การเฝ้ามองอย่างเงียบๆ ของคนร้ายโดยตลอด
หลังจากเหตุการณ์ระเบิดที่สถานีเอบิสุแล้ว คนร้ายมีข้อเรียกร้องขอคุยกับนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น
ผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์แบบตัวต่อตัว หากถูกปฏิเสธ ระเบิดครั้งถัดไปจะถูกจุดชนวนในเวลา 18.30 น.
ของวันคริสต์มาสอีฟ ที่หน้ารูปปั้นฮาจิโก สถานีรถไฟชิบุยะ โตเกียว

คนร้ายจะได้รับการตอบรับข้อเรียกร้องนี้หรือไม่?
สถานการณ์จะ เลวร้าย หรือ คลี่คลาย ไปอย่างไร?
ที่สำคัญ ใครอยู่เบื้องหลังการวางระเบิดครั้งนี้ และใครจะหยุดพวกเขาได้?



นิยายเรื่องนี้ได้นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ (เดิมชื่อว่า And so this is Xmas พิมพ์ครั้งแรกในญี่ปุ่น ปี 2559 แต่ต่อมาฉบับพิมพ์ใหม่
ปี 2561 เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Silent Tokyo: And so this is Xmas) เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น 4 ธันวาคม 2563 กำกับโดย
Takafumi Hatano, เขียนบทโดย Masahiro Yamaura และแสดงโดย Koichi Sato รับบทเป็น Hitoshi Asahina, Yuriko Ishida
รับบทเป็น Aiko Yamaguchi, Hidetoshi Nishijima รับบทเป็น Shinobu Seta, Tomoya Nakamura รับบทเป็น Motoki Sunaga,
Alice Hirose รับบทเป็น Nami Takanashi, Kai Inowaki รับบทเป็น Kota Kurusu, Ryo Katsuji รับบทเป็น Daiki Izumi เปิดตัวใน
อันดับที่ 5 Japan Box Office และทำรายได้รวมทั้งหมดในญี่ปุ่นไปได้ 393,391,470 เยน (สรุปรายได้จนถึง 27 ธันวาคม 2563)



*********************************************************

วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2564

แจ้งข่าวนิยาย น้ำพุสำนักพิมพ์ : เดือน ตุลาคม 2564

********************************************************

หมอคนสุดท้ายจะนึกถึงคุณเมื่อมองดูซากุระ
最後の医者は桜を見上げて君を想う
Saigo no Isha wa Sakura wo Miagete Kimi wo Omou


ผู้เขียน: Atsuto Ninomiya (โรงเรียนแห่งความมืด Ankoku Gakkou)
ผู้แปล: อภิญญา เดชะบุญไพศาล
จำนวนหน้า: 488 หน้า
ราคาปก: 335 บาท

ณ โรงพยาบาลแห่งนี้ หมอสองคนมีความเชื่อต่างกันดุจเส้นขนาน "ฟุกุฮาระ" หมอผู้สร้างปาฏิหาริย์
และช่วยชีวิตคนมานับครั้งไม่ถ้วน "คิริโกะ" หมอผู้ชี้นำความตายให้กับคนไข้ เมื่อหมดหนทางรักษา
กระทั่งเมื่อพบกับคนไข้รายล่าสุด สิ่งที่พวกเขายึดมั่นก็เริ่มสั่นคลอน... หากชีวิตเป็นดั่งดอกซากุระที่ไม่ช้าก็ร่วงหล่น
คุณจะโอบกอดความหวังสุดท้ายเอาไว้ หรือยืนมองซากุระที่รอวันปลิดปลิว...

"หมอคนสุดท้ายจะนึกถึงคุณเมื่อมองดูซากุระ"
เป็นเรื่องราวเรียบง่ายเกี่ยวกับคนธรรมดาที่เดินมาถึงจุดเปลี่ยนบนเส้นทางชีวิต
ทว่าถ่ายทอดออกมาได้ตราตรึงใจ ผสานทั้งความสุข ความเศร้า และความหวังไว้อย่างกลมกล่อม
นี่คือหนังสือที่นักอ่านชาวญี่ปุ่นพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าควรค่าแก่การอ่านอย่างยิ่ง
และพนักงานร้านหนังสือทั่วประเทศยกให้เป็น "สุดยอดนิยายซาบซึ้งกินใจแห่งปี"



นิยายเรื่อง หมอคนสุดท้ายจะนึกถึงคุณเมื่อมองดูซากุระ ได้นำไปเขียนเป็นฉบับการ์ตูนด้วย วาดภาพโดย
อ.Kyuu Hachikawa ลงใน Comic Corona ปี 2018 ปัจจุบันมีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญีปุ่น 3 เล่ม ยังไม่จบ


 




*********************************************************

แจ้งข่าวนิยาย Chaichai Books : เดือน ตุลาคม 2564

*****************************************************

The Memory Police ความจำที่สาบสูญ 密やかな結晶 Hisoyaka na Kessho

ผู้เขียน: Yoko Ogawa
ผู้แปล: อาภาพร วิมลสาระวงค์
จำนวนหน้า: 304 หน้า
ราคาปก: 320 บาท

บนเกาะไร้ชื่อที่ผู้คนเผชิญกับการหลงลืมเป็นเรื่องปกติ การสาบสูญของสิ่งสามัญ สิ่งสวยงาม
และสิ่งที่เคยประทับภาพสำคัญในชีวิต หายไปจากความทรงจำโดยแทบไม่มีใครตั้งคำถาม   

“การลบความจำที่ไม่จำเป็นให้หายไปอย่างรวดเร็วเป็นงานที่สำคัญที่สุดของพวกเรา
ถ้ายังมีความจำที่ไร้ประโยชน์ก็ไม่ใช่เรื่องปกตินะ จริงไหม” ตำรวจกุมความลับกล่าว

ความจำที่สาบสูญ ฉบับภาษาญี่ปุ่นตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2537 ต่อมาได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษเมื่อปี 2562
ในชื่อ The Memory Police และได้เข้ารอบสุดท้ายรางวัล International Booker Prize ประจำปี 2563


 
*********************************************************